วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ลุ้นรัฐเช่าสร้างรัฐสภาใหม่ การรถไฟฯส่งประกวดที่ดินริมแม่น้ำ 260 ไร่


ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4021 (3221)

วันที่ 24 กรกฎาคมนี้ รัฐสภาจะชี้ขาดผลการเลือกแปลงที่ดินที่จะนำมาก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้คณะทำงานของรัฐสภา และ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ยกคณะล่องแม่น้ำเจ้าพระยาดูที่ดินบริเวณริมแม่น้ำของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ขนาด 260 ไร่

ว่ากันว่าที่ดินแปลงดังกล่าวนายสมัครถูกตาต้องใจเป็นพิเศษ เพราะทำเลดี ใกล้ริมแม่น้ำ มีข้อเสียเพียงแค่สามารถเข้า-ออกริมถนนเชื้อเพลิงได้เพียงเส้นทางเดียว และต้องเดินทางเข้าไปค่อนข้างลึก

"สมัคร" ปิ๊งทำเลดีติดริมแม่น้ำ

แหล่งข่าวจากการรถไฟฯบอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวมีทำเลที่ตั้งที่ดีมาก เพราะติดริมแม่น้ำ โดยด้านทิศเหนืออยู่ติดพื้นที่อนุรักษ์บางกะเจ้า ทิศใต้ติดถนนพระรามที่ 3 ทิศตะวันออกติดถนนพระรามที่ 3 บริเวณวัดช่องลม ทิศตะวันตกติดการท่าเรือแห่งประเทศไทย การคมนาคมสะดวกสบาย ใกล้ทางขึ้นลงทางด่วน สามารถขึ้นทางด่วนมาลงที่ถนนพระรามที่ 3 และพระรามที่ 4 ได้ ถนนสายหลักหลายสายตัดผ่านทั้งถนนพระรามที่ 3, พระรามที่ 4, ถนนเชื้อเพลิง

โดยการรถไฟฯ พร้อมสนองนโยบายเต็มที่ถ้าหากจะเช่าที่ดินสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ เพราะจะทำให้มีรายได้เข้ามาโดยเร็ว ต่างจากการให้เอกชนเช่า ซึ่งต้องเสียเวลาดำเนินการตามขั้นตอน เพราะอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ

ร.ฟ.ท.ให้เช่า 30 ปี 1.3 หมื่นล้าน

หากได้รับเลือก การรถไฟฯมีแผนจะให้รัฐสภาเช่าที่ดินแปลงนี้ระยะยาว 30 ปี ไม่รวมอายุสัญญาเช่าระหว่างก่อสร้างอีก 5 ปี และจะให้ส่วนลดค่าเช่าอีก 25% ตีมูลค่าที่ดินตามราคาประเมินตารางวาละ 1 แสนบาท เบ็ดเสร็จการรถไฟฯจะมีรายได้จาก ค่าเช่า 11,080 ล้านบาท

รายละเอียดการให้เช่า การรถไฟฯจะใช้ฐานเดียวกับที่ให้เอกชนเช่า โดยคิดค่าธรรมเนียม 1,462 ล้านบาท แต่ให้ส่วนลด 25% เหลือประมาณ 1,096 ล้านบาท ค่าเช่าระหว่างก่อสร้าง ปีแรกไม่คิด ปีที่ 2 คิด 20% ของค่าเช่าจัดหาประโยชน์หรือประมาณ 36 ล้านบาท ปีที่ 3 คิด 73 ล้านบาท หรือประมาณ 40% ปีที่ 4 คิด 110 ล้านบาท หรือประมาณ 60% และปีที่ 5 คิด 146 ล้านบาท หรือประมาณ 80%

ด้านอัตราค่าเช่าระหว่างจัดหาประโยชน์ในช่วงระยะเวลา 30 ปี จะปรับอัตราค่าเช่าปีละ 5% โดยปีแรกค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 183 ล้านบาท จากนั้นปรับขึ้นปีละ 5% ซึ่งเมื่อคิดผลตอบแทนโดยรวม 30 ปี ในอัตราส่วนลด 25% อยู่ที่ 8,851 กว่าล้านบาท รวมหมดทุกอย่าง เช่น ค่าธรรมเนียม มูลค่าปัจจุบัน ฯลฯ การรถไฟฯคาดว่าจะมีรายได้ตลอดอายุสัญญา 30 ปี โดยรวมประมาณ 13,500 ล้านบาท

บุกคลังน้ำมันสำรวจพื้นที่จริง

ทีมข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ลงสำรวจที่ดินแปลงดังกล่าว พบว่าที่ดินที่การรถไฟฯจะนำเสนอรัฐบาลให้ก่อสร้างอาคารที่ทำการรัฐสภาแห่งใหม่ เดิมบริษัท เชลล์ประเทศไทย จำกัด เช่าใช้ประโยชน์ประมาณ 56.75 ไร่ ส่วนพื้นที่ที่เหลือนอกนั้นอยู่บริเวณด้านหลังบริษัทเชลล์ รูปแปลงที่ดินเป็นแปลงยาวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ถือเป็นที่ดินในทำเลที่ดีมาก เพราะมีวิวริมแม่น้ำ จุดบอดมีแค่เรื่องทางเข้า-ออกริมถนนเชื้อเพลิงซึ่งเป็นซอยขนาดเล็กเส้นทางเดียว ซึ่งปัจจุบันบริษัทเชลล์ใช้เป็นทาง เข้า-ออกรถขนส่งน้ำมัน ไม่นับรวมการ เดินทางโดยทางเรือ และทางด่วนพาดผ่านบริเวณทางเข้าพอดี ซึ่งส่วนนี้อาจจะกลายเป็นข้อด้อย เพราะเมื่อสร้างรัฐสภาแล้วอาจจะไม่สง่างาม อาจต้องอัดฉีดงบฯก่อสร้างถนนทางเข้าแห่งใหม่เพิ่มความสะดวกสบาย อีกก้อนหนึ่ง

นอกจากนี้บริเวณปากทางเข้ายังมีชุมชนเชื้อเพลิงที่อยู่อาศัยมาเป็นเวลานานแล้วอีกกว่า 1,000 ครัวเรือน ดังนั้นหากจะมีการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่จริงๆ ก็อาจต้องทำใจเตรียมรับปัญหาการคัดค้านการรื้อย้ายชุมชนที่จะตามอีกทางหนึ่งด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น