วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

จ่อเชือด“ยุทธนา ทัพเจริญ” สังเวยสัญญากลุ่มเซ็นทรัล


โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 26 ธันวาคม 2551

คณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภาสอบเครียด กรณีร.ฟ.ท.เร่งต่อสัญญากลุ่มเซ็นทรัล

*โผล่แล้วหลักฐานมัด “ยุทธนา ทัพเจริญ”

*เผยสศช. สำนักงบฯยังไม่ให้ความเห็นมา ถือเป็นการเสนอเรื่องที่ไม่ผ่านขั้นตอน

หลังจากที่มีการเร่งรีบเซ็นสัญญาเช่าพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมพหลโยธินระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)กับบริษัทเซ็นทรัล อินเตอร์พัฒนา จำกัด ที่ได้มีการลงนามในสัญญาไปแล้วนั้น ปรากฏว่ามีหลายฝ่ายออกมาวิพากวิจารณ์ว่ามีการเร่งรีบดำเนินการเกิดความไม่โปร่งใสและเอื้อผลประโยชน์ให้กับเอกชน ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา มีการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นในการต่อสัญญาเช่าที่ดินพร้อมทรัพย์สินบริเวณสามเหลี่ยมย่านพหลโยธินจำนวน 47.22 ไร่ ที่ทางร.ฟ.ท.ได้มีการลงนามต่อสัญญากับเซ็นทรัลไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น

ทางคณะกรรมาธิการฯเห็นว่ายังมีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น การเร่งรัดการเสนอขออนุมัติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2551 การเร่งรัดการลงนามสัญญาและการพิจารณาเรื่องผลตอบแทน และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ได้มา โดยเฉพาะกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเร่งรีบส่งเรื่องการต่อสัญญาเข้าครม. เพื่อให้ทันก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณยังไม่ให้ความเห็นมา ถือเป็นการเสนอเรื่องที่ไม่ผ่านขั้นตอนโดยสมบูรณ์หรือไม่

สำหรับประเด็นการต่อสัญญาดังกล่าว จารึก อนุพงษ์ ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา ได้ประสานไปยังคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล และคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน วุฒิสภา เพื่อตั้งอนุกรรมการร่วมในการตรวจสอบการต่อสัญญาเซ็นทรัลเพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุดแล้ว เพราะเห็นว่าโครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่และมีผลตอบแทนค่อนข้างสูงถึง 21,000 ล้านบาท ทั้งนี้การที่ให้คณะกรรมการดังกล่าวร่วมตรวจสอบก็เพื่อให้มีความครอบคลุมในทุกประเด็น

โดยขณะที่ทางคณะทำงานของคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา ได้ขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรายละเอียดการพิจารณาเรื่องผลตอบแทนของการต่อสัญญา กระบวนการเสนอขออนุมัติครม. และขั้นตอนก่อนการเซ็นสัญญากับเซ็นทรัลทั้งหมด จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว พร้อมทั้งได้มีการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว เช่น ยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการฯ ร.ฟ.ท. อิทธิพล ปภาวสิทธิ์ รองผู้ว่าการฯ ด้านบริหารทรัพย์สิน ร.ฟ.ท.ซึ่งถูกตั้งเป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน ตามมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 แทนนคร จันทรศร รองผู้ว่าการฯ ร.ฟ.ท. รวมถึงจะมีการเรียกคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน ตามมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2535 ทุกคน ให้มาชี้แจงกระบวนการ ขั้นตอนการพิจารณาที่ผ่านมาด้วย

ด้านยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแหงประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า การต่อสัญญาเช่า ระหว่างร.ฟ.ท.กับเซ็นทรัล เป็นเรื่องที่ดำเนินการตามแผนเดิมที่คณะกรรมการมาตรา13กำหนดไว้ ซึ่งผู้บริหารร.ฟ.ท.ได้ดูรายงานตามที่ผู้เกี่ยวข้องรายงานมาว่าหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ ให้ร.ฟ.ท.เสนออัยการสูงสุดพิจารณาข้อสัญญา หลังจากนั้นจึงเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ต่อไป ซึ่งก็ได้มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้ว

ทั้งนี้ หลังจากที่คณะกรรมการมามาตรา13 ดำเนินการแล้วเสร็จได้มีการมาหารือกับผู้บริหารร.ฟ.ท.ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะจะครบสัญญาในวันที่18ธ.ค.นี้ และเมื่อพิจารณาแล้วว่าหากสามารถลงนามได้ก่อนก็ควรดำเนินการ ซึ่งหากร.ฟ.ท.ปล่อยให้เวลาล่วงเลยวันที่18 ธ.ค.ไปก็อาจมีคำถามตามมาว่าทำไมถึงไม่ต่อสัญญาก่อนที่จะหมดสัญญา อาจส่งผลให้มีการตรวจสอบถึงความล่าช้าของร.ฟ.ท.ทำให้รัฐเสียหาย รวมถึงผลประโยชน์ที่ร.ฟ.ท.ควรได้รับ

ดังนั้น เมื่อผู้บริหารเห็นว่าสามารถดำเนินการได้ก็ควรรีบดำเนินการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อร.ฟ.ท. จึงให้กลุ่มเซ็นทรัลมาเซ็นสัญญา

“ส่วนการเปลี่ยนตัวประธานคณะกรรมการมาตรา 13 จาก นคร จันทศร รองผู้ว่าร.ฟ.ท. เป็นอิทธิพล ปภาวสิทธิ์ รองผู้ว่าฝ่ายทรัพย์สินนั้น ยุทธนาให้เหตุผลว่า เนื่องจากผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงมาหารือว่ากรณีที่อัยการตรวจร่างสัญญาเสร็จแล้วจะดำเนินการต่ออย่างไร จึงเชิญประธานมาตรา13เดิม(นคร) มาชี้แจง ปรากฏว่าไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจเปลี่ยนตัวประธานมาตรา13 เพื่อให้งานเดินต่อไป เพราะหากปล่อยผ่านไปอาจมีปัญหาตามมาในอนาคต สำหรับผลตอบแทนที่ร.ฟ.ท.จะได้รับยังคงเช่นเดิมที่ 21,000 ล้านบาท ระยะเวลา 20 ปี ”ยุทธนากล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น