วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

นายอำเภอโก-ลก รื้อถอนบ้าน 3 หลัง บนที่ดินการรถไฟ


นราธิวาส - การรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมศุลกากร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเจ้าของบ้าน 3 ที่ปลูกบ้านทับซ้อนนั้น ทางนายอำเภอและนายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ได้ทำการรื้อถอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเกิดความยินยอม พร้อมจ่ายเงินจำนวน 192,000 บาท เพื่อจัดซื้อที่ดินในการปลูกสร้างโรงเรือนขึ้นมาใหม่

หลังจากที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมศุลกากร เป็นโจทย์ในการยื่นฟ้องเจ้าของบ้าน 3 หลังบริเวณชุมชนหัวสะพาน ที่ปลูกบ้านทับซ้อนพื้นที่การก่อสร้างส่วนต่อขยายเส้นทางเข้าประเทศไทยของศูนย์ราชการชายแดน อ.สุไหงโก-ลก บนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยให้รื้อถอนบ้านออกไป เพื่อดำเนินการก่อสร้างในส่วนดังกล่าวให้แล้วเสร็จตามแบบแปลนที่กำหนด

ทั้งนี้ หลังมีการเจรจาร่วมกันกว่า 1 ปี ล่าสุด ศาลจังหวัดนราธิวาสได้พิพากษาคดีดังกล่าวตาม คดีหมายเลขดำที่ พ.142/2552 ว่า โจทก์ทั้ง 2 และจำเลย ซึ่งประกอบด้วย นายกาเดร์ แวดือราแม บ้านเลขที่251/86 ถ.ชลธารเขต ซ.3 ต.สุไหงโก-ลก นายรอแม ดาหะมิ บ้านเลขที่ 251/126 ถ.ชลธารเขต ซ.3 ต.สุไหงโก-ลก และ นางสาวนูรอัยณีย์ เบ็ญอาลาวี บ้านเลขที่251/93 ถ.ชลธารเขต ซ.3 ต.สุไหงโก-ลก ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาล ซึ่งจำเลยยินยอมให้โจทก์รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินพิพาท

ฝ่ายโจทก์ยินยอมจ่ายเงินจำนวน 192,000 บาท เพื่อจัดซื้อที่ดินในการปลูกสร้างโรงเรือนขึ้นมาใหม่ และจ่ายค่าเช่าให้ฝ่ายจำเลยครอบครัวละ 2,000 บาทต่อเดือน ในการเช่าที่อยู่อาศัยระหว่างการรื้อถอนและก่อสร้างโรงเรือนใหม่ เมื่อมีข้อยุติซึ่งเป็นความยินยอมของทั้งสองฝ่าย

วันนี้ (17 ก.ย.) นายสมเกียรติ สุวรรณนิมิตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก พร้อมด้วย นายชวลิต พรหมรา นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก จึงได้นำเจ้าหน้าที่ทหาร และ อส.เข้ามาดำเนินการรื้อถอนบ้านทั้ง 3 หลังดังกล่าว และเร่งปลูกสร้างบ้านให้ใหม่บนที่ดิน ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของบ้านทั้ง 3 หลัง อยู่ห่างจากพื้นที่เดิมประมาณ 200 เมตร

นายชวลิต พรหมรา นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก เปิดเผยว่า หลังรื้อถอนบ้านในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ก็จะดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายเส้นทางเข้าประเทศไทยของศูนย์ราชการชายแดน อ.สุไหงโก-ลก เพิ่มเติมทันที โดยเมื่อแล้วเสร็จจะเปิดให้บริการแยกเป็นช่องทางขาเข้าและขาออก 2 ช่องทาง ซึ่งจะสามารถควบคุมระบบการจราจรให้เป็นไปโดยสะดวกมากยิ่งขึ้น

สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการชายแดนซึ่งใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 162 ล้านบาท ดำเนินการไปแล้ว 96 เปอร์เซนต์ โดยหลังจากนี้คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบภายใน 6 เดือน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น