วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เปิดแผนพัฒนาที่ดินรถไฟ 3.6หมื่นไร่ทั่วปท. ให้เอกชนเช่ายาว20-30ปี แลก 2.1หมื่นล้าน

Prachachart Thurakij วันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 - เวลา 08:04:45 น.

การรถไฟฯปัดฝุ่นขุมทรัพย์ที่ดิน 3.6 หมื่นไร่ทั่วประเทศ เปิดให้เอกชนเช่ายาว 20-30 ปี หวังสร้างรายได้ 2.1 หมื่นล้านบาทล้างหนี้ ดีเดย์ต้นปีี52 หลังบอร์ดอนุมัติพิมพ์เขียวแผนพัฒนา จับตาดีเวลอปเปอร์คว้าชิ้นปลามันโปรเจ็กต์ครบวงจร 3 ทำเลทองกลางเมือง

นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า วันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯได้มีมติเห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟฯปี 2552 ตามแผนจะนำที่ดินแปลงที่มีศักยภาพทั่วประเทศมาจัดประโยชน์รวมทั้งหมด 36,302 ไร่ โดยจะเปิดให้เอกชนและผู้สนใจนำไปพัฒนาเพื่อสร้างรายได้จากค่าเช่าที่ดิน อาคาร รวมทั้งสิ่งปลูกสร้าง สัญญาเช่า 20-30 ปี หากแผนการดำเนินงานประสบความสำเร็จจะทำให้การรถไฟฯได้รับผลตอบแทนรวม 2.1 หมื่นล้านบาท ช่วยลดภาระหนี้สินที่มีอยู่ทั้งหมดในขณะนี้กว่า 5 หมื่นล้านบาท และช่วยเสริมสภาพคล่องทางด้านการเงินของการรถไฟฯ

พื้นที่ที่พัฒนาจะเป็น 3 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 โครงการพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยเฉพาะย่านมักกะสัน พหลโยธิน และที่ดินบริเวณสถานีแม่น้ำ ฯลฯ ซึ่งเป็นที่สนใจของเอกชนจำนวนมาก เนื่องจากอยู่ในทำเลทองย่านใจกลางเมือง เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ และศูนย์กลางการคมนาคมทั้งปัจจุบันและในอนาคต

ส่วนที่ 2 โครงการพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพทั่วประเทศ และ

ส่วนที่ 3 โครงการต่อสัญญาที่ดินและอาคารที่เปิดให้เช่าไปแล้วช่วงก่อนหน้านี้

สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพใน กทม. ในทำเลมักกะสัน พหลโยธิน และสถานีแม่น้ำ จะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการขนาดใหญ่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้น การรถไฟฯจะได้รับผลตอบแทนรวม 14,613 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้ ที่ดินในทำเลมักกะสัน จำนวน 571 ไร่ จะเปิดให้มีการพัฒนาในลักษณะผสมผสานทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม ศูนย์การค้า แหล่งเอ็นเตอร์เทน ร้านค้าปลอดภาษี อาคารสำนักงาน ฯลฯ เนื่องจากแปลงที่ดินมีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีมูลค่าสูง และจะเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมที่จะเชื่อมต่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลังจากที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เปิดให้บริการในปี 2552

โดยที่ดินแปลงนี้ การรถไฟฯตีราคาประเมินไว้ที่ 22,840 ล้านบาท กำหนดค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 2,971 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรกไม่น้อยกว่า 364 ล้านบาท อายุสัญญา 5 ปีแรกที่ก่อสร้าง บวกระยะเวลาเช่าจัดประโยชน์ 30 ปี และต่ออายุสัญญาได้อีก 25 ปี ผลตอบแทนรวม 12,000 ล้านบาท ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทบทวนผลการศึกษารูปแบบโครงการโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

จากเดิมวางแผนจะพัฒนาเป็นคอมเพล็กซ์ครบวงจร มูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท โดยส่วนที่ 1 แยกเป็นบริเวณ

1.1 บริเวณ 1 A เนื้อที่ 122 ไร่ ทางทิศตะวันออก ติดสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (CAT) พัฒนาเป็นศูนย์การค้า สถานบันเทิง ที่จอดรถ โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และอาคารสำนักงาน และ
1.2 บริเวณ 1 B เนื้อที่ 42 ไร่ ทางทิศตะวันตก ติดสถานีราชปรารภ พัฒนาเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของกรุงเทพฯ และอาคารสำนักงาน
1.3 บริเวณพื้นที่ 1 C เนื้อที่ 205 ไร่ ทางตอนล่างของพื้นที่ด้านทิศใต้ ติดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พัฒนาเป็นศูนย์นิทรรศการ โรงแรม และศูนย์การแสดงสินค้า

ส่วนที่ 2 ประกอบด้วย

2.1 พื้นที่ 2 A เนื้อที่ 55 ไร่ อยู่บริเวณตอนกลางของที่ดินติดบึงมักกะสัน พัฒนาเป็นอาคารสูง
2.2 พื้นที่ 2 B เนื้อที่ 33 ไร่ ตอนกลางพื้นที่ติดบึงมักกะสัน และเชื่อมต่อกับส่วน 1 A ทางทิศตะวันออก พัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจ และอาคารสำนักงาน
2.3 พื้นที่ 2 C เนื้อที่ 42 ไร่ ทางตอนกลางของที่ดิน ติดบึงมักกะสัน และเชื่อมกับพื้นที่ส่วนที่ 3 พัฒนาเป็นศูนย์กลางธุรกิจ และอาคารสำนักงาน

สำหรับส่วนที่ 3 เนื้อที่ 72 ไร่ ระหว่างพื้นที่ส่วน 1 C และส่วน 2 C จะพัฒนาเป็น
3.1 ศูนย์แสดงสินค้า และศูนย์การประชุมสัมมนา

สถานีแม่น้ำ 279 ไร่ ราคาประเมิน 5,245.20 ล้านบาท กำหนดค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ไม่น้อยกว่า 682 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรกไม่น้อยกว่า 83 ล้านบาท อายุสัญญาเช่า ก่อสร้าง 4 ปีแรก บวกเช่าจัดประโยชน์ 30 ปี ผลตอบแทนรวม 2,265 ล้านบาท กำลังเตรียมว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้โครงการ เบื้องต้นพบว่าน่าจะพัฒนาในเชิงพาณิชย์ได้หลายรูปแบบเช่นเดียวกัน เพราะแปลงที่ดินอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ย่านพหลโยธิน 2,983 ไร่ ราคาประเมิน 41,660 ล้านบาท ส่วนรายได้อื่นๆ ยังไม่มีการประเมิน เนื่องจากต้องรอสรุปเรื่องการใช้พื้นที่ของโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ตามแผนที่เคยศึกษาไว้จะแบ่งพื้นที่พัฒนาเป็นโซนๆ เนื่องจากพื้นที่โครงการมีขนาดใหญ่ โดยอาจพัฒนาเป็นโครงการในลักษณะครบวงจร ทั้งแหล่งธุรกิจการค้า ศูนย์การค้า โรงแรม (โรงแรมราชธานีแห่งใหม่?) ส่วนที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน ฯลฯ

บ้านพักรถไฟ ก.ม.11 จำนวน 278.94 ไร่ ราคาประเมิน 7,252 กว่าล้านบาท กำลังจัดทำร่างทีโออาร์ว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ และเอนเนอร์ยีคอมเพล็กซ์ 2 หลัง บมจ.ปตท. จำนวน 17.13 ไร่ ราคาประเมิน 445 กว่าล้านบาท ค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ไม่น้อยกว่า 83 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรกไม่น้อยกว่า 13 ล้านบาท อายุสัญญาก่อสร้าง 4 ปี เช่าจัดประโยชน์ 30 ปี คาดว่าได้ผลตอบแทนรวม 347 กว่าล้านบาท กำลังเตรียมว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ

ส่วนที่ 2 โครงการพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพทั่วประเทศ ผลตอบแทนรวม 751 ล้านบาท ค่าธรรมจัดประโยชน์ 261 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรกไม่น้อยกว่า 31 ล้านบาท เช่น ที่ดินย่านรัชดาภิเษกแปลง 5-6 พื้นที่ 2.19 ไร่ ราคาประเมิน 96.25 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ 15.5 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรก 1.5 ล้านบาท อายุสัญญาเช่าก่อสร้าง 4 ปี เช่าจัดประโยชน์ 30 ปี ผลตอบแทน 41.58 ล้านบาท

ถนนเทิดพระเกียรติแปลง 1 พื้นที่ 4.78 ไร่ ราคาประเมิน 175 กว่าล้านบาท ค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ 22.8 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรกไม่น้อยกว่า 2.7 ล้านบาท อายุสัญญาเช่าก่อสร้าง 4 ปี จัดประโยชน์ 30 ปี ผลตอบแทน 75.75 ล้านบาท มหาชัย พื้นที่ 15.43 ไร่ ราคาประเมิน 154.3 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ 22.8 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรกไม่น้อยกว่า 3.1 ล้านบาท อายุเช่า 4 ปีแรกก่อสร้าง จัดประโยชน์ 30 ปี ผลตอบแทนรวม 66.69 ล้านบาท

นอกนั้นมีพหลโยธินแปลง 5 พื้นที่ 7.92 ไร่ ราคาประเมิน 515 ล้านบาท จัดประโยชน์ 30 ปี ผลตอบแทนรวม 222.48 ล้านบาท รัชดาภิเษก แปลง 4 พื้นที่ 0.73 ไร่ ราคาประเมิน 14 ล้านบาท จัดประโยชน์ 30 ปี ผลตอบแทนรวม 6 ล้านบาท รัชดาภิเษกแปลง 9 พื้นที่ 1.09 ไร่ ราคาประเมิน 52 ไร่ จัดประโยชน์ 30 ปี ผลตอบแทนรวม 22.46 ล้านบาท รัชดาภิเษก แปลง 34 พื้นที่ 0.91 ไร่ ราคาประเมิน 22 ล้านบาท จัดประโยชน์ 30 ปี ผลตอบแทนรวม 9.50 ล้านบาท ฯลฯ

ส่วนที่ 3 โครงการต่อสัญญา ผลตอบแทนรวม 20,133.230 ล้านบาท มีบริเวณสามเหลี่ยมพหลโยธิน กับบริษัทเซ็นทรัลฯ 47.22 ไร่ ราคาประเมิน 13,790 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ 400 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรกไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท อายุสัญญา 20 ปี ผลตอบแทนรวม 20,000 ล้านบาท สถานีหัวหิน บริเวณหัวหินช็อปปิ้งมอลล์ พื้นที่ 2.229 ไร่ ราคาประเมิน 165 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ 9.9 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรก 2.8 ล้านบาท อายุสัญญา 10 ปี ผลตอบแทนรวม 47.24 ล้านบาท ฯลฯ

"เบ็ดเสร็จแผนพัฒนาที่ดินปี 2552 การรถไฟฯจะมีรายได้จากการเช่าที่ดิน ส่วนที่ 2 และ 3 เป็นค่าธรรมเนียมจัดประโยชน์ไม่น้อยกว่า 785 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรกไม่น้อยกว่า 151 ล้านบาท คิดเป็นผลตอบแทนรวมไม่น้อยกว่า 21,195 ล้านบาท"

นอกจากนี้บอร์ดยังเห็นชอบในหลักการให้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ในการให้เอกชนลงทุนพัฒนาโครงการอาคารชุดที่พักอาศัยเพื่อเป็นสวัสดิการพนักงานการรถไฟฯ ในพื้นที่บริเวณสะพานแดง บางซื่อ จำนวน 105 ไร่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น